ถ้าอยากให้เสื้อหอมนุ่มกลิ่นติดทนนาน โดยไม่ต้องเสียเงินซื้อขวดน้ำหอมราคาแพง ลองเลือกน้ำยาปรับผ้านุ่มสูตรที่มีกลิ่นหอมโดนใจสิ แต่ถ้าไม่แน่ใจว่าจะต้องใช้ยี่ห้อไหนดี? เราสามารถลองใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มกลิ่นไหนก็ได้ที่เราชอบและอบผ้าด้วย เครื่องอบผ้าหยอดเหรียญ ที่ร้านดู จะเห็นได้ชัดเลยว่าเสื้อผ้าที่อบเสร็จแล้วจะมีกลิ่นหอมติดทนนาน ราวกับกลิ่นดอกไม้หอม ๆ ในยามเช้า แถมเสื้อยังสะอาดเหมือนจ้างร้านซักรีดเลยล่ะ
วันนี้ WashXpress มีเคล็ดลับการเลือกน้ำยาปรับผ้านุ่ม จากร้านอบผ้าหยอดเหรียญมาฝากทุกคนกัน รับรองว่าเสื้อหอมนานตลอดทั้งวัน
น้ำยาปรับผ้านุ่มแบบไหนเหมาะกับ เครื่องอบผ้าหยอดเหรียญ
ถ้าจะบอกว่า“น้ำยาปรับผ้านุ่ม” เป็นตัวช่วยเพิ่มความหอมให้เสื้อผ้าของเรา ก็คงไม่ผิดนัก ถึงจะมีคนใช้เยอะ แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าน้ำยาปรับผ้านุ่ม ไม่ได้มีแค่แบบน้ำเท่านั้นนะ! ในปัจจุบัน มีน้ำยาปรับผ้านุ่มทั้งแบบน้ำและแบบแผ่นให้เราได้เลือกใช้กัน ยิ่งถ้าใครที่อยู่หอหรือคอนโด น่าจะคุ้นเคยกับการใช้ เครื่องอบผ้าหยอดเหรียญ เป็นประจำอยู่แล้ว ทำให้ไอเทมที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับการซักผ้า-อบผ้าทุกครั้ง คือน้ำยาปรับผ้านุ่มสูตรหอมโดนใจนั่นเอง
แล้วน้ำยาปรับผ้านุ่มแบบน้ำและแบบแผ่น แตกต่างกันอย่างไร?
น้ำยาปรับผ้านุ่มแบบน้ำ ใช้กับเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ
น้ำยาปรับผ้านุ่มแบบน้ำ มีทั้งสูตรธรรมดา สูตรซักน้ำเดียวและสูตรเข้มข้น 3-5 เท่า สำหรับน้ำยาปรับผ้านุ่มที่วางขายกันในตลาดทั่วไป นอกจากจะทำให้เนื้อผ้าหอมนุ่มและรีดง่ายขึ้นแล้ว บางสูตรยังช่วยลดกลิ่นอับได้ดีอีกด้วย สำหรับใครที่ใช้เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญที่ร้านอยู่แล้ว เราสามารถเลือกซื้อน้ำยาปรับผ้านุ่มสูตรที่เหมาะกับผ้าของเรา จากนั้นใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มลงในช่องน้ำยาของเครื่องซักผ้า และปรับปริมาณของน้ำยาปรับผ้านุ่มตามจำนวนผ้าที่เราต้องการซักได้เลย
น้ำยาปรับผ้านุ่มแบบแผ่นเหมาะกับ เครื่องอบผ้าหยอดเหรียญ
น้ำยาปรับผ้าแบบนุ่มแบบแผ่น หรือที่เรียกว่า “แผ่นอบผ้า” (Dry Sheets) ได้รับความนิยมในหมู่แม่บ้านต่างประเทศมาก เพราะใช้งานง่าย ช่วยลดกลิ่นเหม็นอับ และทำให้ผ้าหอมนุ่มน่าใส่อีกด้วย เหมาะสำหรับการใช้คู่กับ เครื่องอบผ้าหยอดเหรียญ เพราะคุณสามารถใส่แผ่นอบผ้าลงไปในเครื่องอบผ้าพร้อมกับผ้าที่เราซักเสร็จแล้วได้เลย เมื่อเครื่องอบผ้าทำงานไปเรื่อยๆ ความร้อนภายในถัง จะช่วยให้ความหอมจากแผ่นอบผ้าแตกตัวและกระจายกลิ่นไปทั่วเสื้อผ้า ทำให้หลังการอบผ้าเสร็จ คุณจะได้กลิ่นหอมสดชื่น ติดทนนานกว่าเดิม เหมาะสำหรับคนที่อยากให้เสื้อหอมนาน ไม่ต้องฉีดน้ำหอมบ่อย
ประโยชน์ของการใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม
ไอเทมที่คนรักกลิ่นหอมขาดไม่ได้อย่าง “น้ำยาปรับผ้านุ่ม” มีประโยชน์มากกว่าที่คุณคิด! ยิ่งถ้าเราได้ใช้คู่กับเครื่องซักผ้าหรือเครื่องอบผ้าหยอดเหรียญ ที่ร้านซักผ้าใกล้บ้านแล้วล่ะก็ ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที คุณก็จะได้เสื้อผ้าที่หอมสะอาด ไร้กลิ่นเหม็นกวนใจ แต่ถ้าใครยังไม่รู้ว่าน้ำยาปรับผ้านุ่มมีข้อดีอะไรอีก ลองอ่าน 6 ข้อเหล่านี้ดู
- น้ำยาปรับผ้านุ่ม ช่วยให้เสื้อหอมนุ่มฟูขึ้น ใส่แล้วไม่ระคายเคืองผิว
- ช่วยปกป้องเนื้อผ้าไม่ให้ขาดง่าย มีความยืดหยุ่น ทนความร้อนได้ดี
- ลดไฟฟ้าสถิตย์บนเนื้อผ้า เพราะน้ำยาปรับผ้านุ่มมีส่วนประกอบเป็นสารประจุบวก เมื่อสารนี้เกาะติดกับเนื้อผ้าที่เป็นประจุลบ จึงช่วยลดการเกิดไฟฟ้าสถิตย์บนเนื้อผ้า อันเป็นสาเหตุที่ทำให้เนื้อผ้าเกิดการลีบติดตัวได้
- เสื้อผ้ารีดง่ายขึ้น ไม่แห้งกรอบขาดง่าย ช่วยประหยัดน้ำยารีดผ้าได้อีก
- ลดการเกิดขุยบนเสื้อผ้า ช่วยยืดอายุการใช้งานของเนื้อผ้าให้สวมใส่ได้นานหลายปี
- ถ้าใช้คู่กับการอบผ้าด้วยเครื่องอบผ้าหยอดเหรียญ จะช่วยให้เสื้อมีกลิ่นติดหอมนาน สะอาดเหมือนใหม่ ไร้กลิ่นเหม็นอับ และยังเป็นการฆ่าไรฝุ่นและเชื้อโรคด้วยนะ
อ่านเรื่องราวอื่น ๆ ที่เกียวข้องเพิ่มเติม
10 ทริคซักผ้า เสื้อกลิ่นหอมทั้งวัน เหมือนจ้างร้านซักรีด
มาดู 7 ข้อดีของการอบผ้า ช่วยให้ผ้าแห้งทันใจ
วิธีเลือกน้ำยาปรับผ้านุ่มสำหรับ เครื่องอบผ้าหยอดเหรียญ
เมื่อเรารู้ประโยชน์และข้อดีของการใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มแล้ว เราลองมาดูวิธีการเลือกน้ำยาปรับผ้านุ่มสูตรที่ใช่กันบ้าง ซึ่งขั้นตอนนี้ก็สำคัญไม่แพ้การซักเลยทีเดียว เพราะน้ำยาซักผ้าแต่ละสูตรจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ถ้าเราเลือกน้ำยาปรับผ้านุ่มผิดสูตรเมื่อไหร่ นอกจากจะทำให้เสื้อไม่หอมนุ่มแล้ว ยังเป็นการทำลายเนื้อผ้า ทำให้เราต้องเสียเงินซื้อเสื้อใหม่อีกด้วย
สำหรับวิธีการเลือกน้ำยาปรับผ้านุ่มนั้น WashXpress รวบรวมมาให้คุณแล้ว
1. กลิ่นของน้ำยาปรับผ้านุ่ม
ก่อนอื่นเลย เราควรเลือกน้ำยาปรับผ้านุ่มที่มีกลิ่นหอมเหมาะสม ไม่ฉุนจนเกิดไป เพราะน้ำหอมที่กลิ่นฉุน จะมีส่วนผสมของสารปิโตรเคมีจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดอาการแพ้น้ำหอมหรือป่วยได้
2. ระวังสารก่อให้เกิดอาการแพ้
ข้อนี้สำคัญมาก เราควรอ่านสารประกอบที่ฉลากข้างขวด เพื่อดูว่ามีสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้หรือเปล่า อย่างสารในน้ำยาปรับผ้านุ่มที่มีว่า “สารควอท” (Quats) มักจะเป็นสารที่ทำให้ใครหลายคนเกิดอาการระคายเคือง จนต้องหยุดใช้ไปเลย ระวังกันด้วย
3. ราคาที่เหมาะสม
หากเราเลือกน้ำยาปรับผ้านุ่มราคาแพง คงไม่ต่างกับการใช้น้ำหอมราคาแพงเท่าไหร่ ควรเลือกซื้อน้ำยาปรับผ้านุ่มที่มีความหอม และเหมาะสมกับเสื้อผ้าของเราดีกว่า
4. เหมาะกับเครื่องอบผ้าหยอดเหรียญ
สำหรับใครที่อยู่หอพักหรือคอนโด และใช้เครื่องอบผ้าหยอดเหรียญ เป็นประจำ อาจจะกำลังมองหาน้ำยาปรับผ้านุ่มสูตรช่วยลดกลิ่นอับ หรือแผ่นอบผ้าหอม ๆ เหมาะสำหรับใส่ในเครื่องอบผ้าได้เลย จะช่วยประหยัดเวลาและทำให้เสื้อหอมขึ้นแน่นอน
หากใครกำลังมองหาน้ำยาปรับผ้านุ่มสูตรที่ใช่อยู่ อย่าลืมนำเทคนิคดี ๆ เหล่านี้ ไปใช้ในการเลือกซื้อน้ำยาปรับผ้านุ่มด้วยล่ะ รับรองว่าคุณจะได้เสื้อผ้าหอมนุ่มติดทนนาน น่าสวมใส่ตลอดทั้งวัน เสื้อหอมนานจนใคร ๆ ต้องถามว่าใช้น้ำหอมยี่ห้ออะไรเลยทีเดียว
.
.
ถ้าอยากได้เสื้อหอมนาน โดยไม่ต้องเปลืองแรงและไม่ใช้เวลานาน มาใช้บริการซักผ้า-อบผ้า ที่ร้าน WashXpress สิ เรามีเครื่องอบผ้าหยอดเหรียญขนาดใหญ่ รองรับกับความต้องการของลูกค้าจำนวนมากได้ อบผ้าเพียง 25 นาที เริ่มต้นแค่ 40 บาทเท่านั้น คุณก็จะได้ผ้าหอมนุ่ม น่าสวมใส่ หรือถ้าลืมซื้อน้ำยาปรับผ้านุ่มมาด้วย เราก็มีตู้จำหน่ายน้ำยาปรับผ้านุ่มแบบหยอดเหรียญ เพียง 10 บาทเท่านั้น ทั้งสะดวกและใช้เวลาน้อยแบบนี้ ไม่ใช้ไม่ได้แล้ว!
ร้านซักผ้าหยอดเหรียญ WashXpress เปิดให้บริการใกล้บ้านคุณ
ค้นหาสาขาใกล้บ้าน ได้ที่: http://bit.ly/2NXdK1H
ติดตามข่าวสาร หรือสอบถามเพิ่มเติมทาง:
Facebook Page: https://www.facebook.com/WashXpressTH/
Line Official: http://bit.ly/3sXRuDp
#WashXpress #วิธีเลือกน้ำยาปรับผ้านุ่ม #เครื่องอบผ้าหยอดเหรียญ